ในตอนนี้ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรอาจยังไม่รุ่งสักเท่าไหร่ อย่าเพิ่งท้อ มาเตรียมตัววางแผนเผื่ออนาคตกันดีกว่า เพราะคนเป็นเจ้าของกิจการต้องมองการณ์ไกล ไม่โฟกัสแค่เพียงปัจจุบัน
วันนี้จึงได้นำเอาทรนด์ที่คาดว่าจะเกิดเป็นธุรกิจขึ้นในปี 2030 หรือในอีกทศวรรษหน้า มาเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ
นำไปต่อยอด และเตรียมความพร้อมสำหรับการทำธุรกิจ รวมถึงรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
.
1. โลกกำลังจะถูกครอบครองโดย “ผู้สูงอายุ”
เพราะโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ องค์การสหประชาชาติ คาดการณ์ว่าในอีก 14 ปีข้างหน้า จะมีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) กว่า 1.4 พันล้านคน หรือคิดเป็น 16.5% ของประชากรโลกทั้งหมด สำหรับในไทย ผู้สูงอายุจะสูงถึง 30% ของประชากรทั้งหมด เนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จะทำให้มีนวัตกรรม อาหารและยา ที่ช่วยประคองชีวิต ยืดอายุร่างกายของผู้คนให้ยืนยาวขึ้น ประกอบกับเทรนด์การหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้จำนวนผู้สูงอายุมีมากขึ้น
ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม ตลาดแรงงานในอนาคตที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนในธุรกิจอะไรสักอย่าง ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ หรือธุรกิจที่มีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุ เช่น วิตามิน อาหารเสริม แอปพลิเคชันหรือระบบเซ็นเซอร์ที่ช่วยแจ้งเตือนเรื่องสุขภาพของผู้สูงอายุ เป็นต้น จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจและควรศึกษาเพื่อลงทุนอย่างยิ่ง
.
2. โลกกำลังเผชิญปัญหาครั้งใหญ่ “ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดและผลิตทดแทนไม่ได้”
องค์การสหประชาชาติ คาดการณ์ว่า ในปี 2030 จำนวนประชากรโลกจะพุ่งสูงถึง 8.4 พันล้านคน สังคมเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีคนอาศัยอยู่ในเมืองมากกว่า 5 พันล้านคน โดยเฉพาะในแถบแอฟริกาและเอเชีย พื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้จะถูกแทนที่ด้วยบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง สาธารณูปโภคต่าง ๆ ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการผลิต และโรงผลิตไฟฟ้าที่มีความต้องการน้ำมากกว่าเดิมเกือบ 40% อาจทำให้โลกเสี่ยงต่อภาวะขาดแคลนน้ำ ประชากรกว่าครึ่งโลกต้องเผชิญกับทรัพยากรน้ำไม่เพียงพอต่อการบริโภค
สำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ควรวางแผนการจัดการทรัพยากรและพลังงานอย่างชาญฉลาด ใช้พลังงานทางเลือกแทนพลังงานจากฟอสซิล หรืออาจเปลี่ยนสินค้าให้เป็นบริการ ซึ่งจากปัญหาการขาดแคลน ในปี 2030 เทรนด์ของสินค้าและบริการที่คำนึงถึงวงจรการผลิตและลดของเสียให้เป็นศูนย์จะเป็นที่นิยมมากขึ้น รวมถึงบรรจุภัณฑ์ในอนาคตจะถูกพัฒนาให้ย่อยสลายได้เองทันทีหลังใช้งานเสร็จ หรือแม้กระทั่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกินได้ด้วย
.
3. การเปลี่ยนแปลงของขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลก
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันจีน เป็นประเทศที่มีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด แซงหน้าหลายประเทศในฝั่งตะวันตกและยุโรป สามารถขึ้นสู่อันดับ 2 ของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกได้ แต่สำหรับในปี 2030 มีการคาดการณ์ว่า กลุ่มเศรษฐกิจบริกส์ (BRICS) หรือกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้นกว่า 2 เท่า มีมูลค่าทางจีดีพีอยู่ที่ 38% ของจีดีพีโลก ประชากรชนชั้นกลางของอินเดียจะมีจำนวนแซงหน้าจีน ซึ่งชนชั้นกลางเหล่านี้จะก้าวขึ้นมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นไปได้ว่าอินเดียจะเป็นมหาอำนาจของเศรษฐกิจโลกประเทศต่อไป
นี่จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย ที่มีความพร้อมและเล็งเห็นช่องทางความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนหรือเจรจาค้าขายในอินเดีย เนื่องจากตลาดอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และประชากรชาวอินเดียเองก็นิยมสินค้าไทยด้วย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก จาน ชาม ช้อน ส้อม ขัน เป็นต้น
.
4. ทั่วโลกร่วมมือยึดหลักความยั่งยืนและความรับผิดชอบทางสังคม
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคม ประชากร ปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติ การขาดแคลนทรัพยากร ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญเรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนโดยครอบคลุมทั้งระดับสังคม เศรษฐกิจ และประเทศ ในขณะเดียวกันผู้บริโภคกล้าที่จะเรียกหาความเป็นธรรมมากขึ้น ทั้งยังพร้อมสนับสนุน ให้ความร่วมมือกับธุรกิจที่โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ผ่านกลุ่มสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการเองก็ควรให้ความสำคัญในเรื่องของการอยู่ร่วมกันในสังคมของผู้บริโภคและธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส สัตย์จริง ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หรือแรงงานของตน ทั้งนี้ควรให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลบริษัทได้ พร้อมกับวางแผนพัฒนาธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การขาดแคลนทรัพยากร ความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิมนุษยชน
.
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 ข้อข้างต้น ล้วนเป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการสามารถนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนา หรือต่อยอดในธุรกิจของตนเองที่มีอยู่แล้ว รวมถึงการทำธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต แม้ว่าจะเป็นเทรนด์ธุรกิจล่วงหน้าถึง 10 ปี แต่ก็ถือว่าเป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการไทยควรศึกษา และเตรียมความพร้อมให้ดี ไม่ควรหยุดนิ่ง หรือมองเพียงแค่ธุรกิจในมือเท่านั้น เพราะเทรนด์การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างทางก่อนจะถึงปีที่ 10 ซึ่งถ้าผู้ประกอบการท่านใด รู้ก่อน มีความพร้อมก่อน และที่สำคัญลงทุนก่อน โอกาสที่จะคว้าอันดับหนึ่งบนสังเวียนการแข่งขันทางธุรกิจก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
.
ที่มา : https://themomentum.co/successful-feature-5-megatrends-2030/
https://www.passiongen.com/.../business-trends-that-will.../
.
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS #อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan #เทรนด์ธุรกิจปี2030 #เทรนด์ธุรกิจ #Trend #Businessowner #Megatrends2030 #Economy #Business #investment
「บราซิล ประชากร」的推薦目錄:
บราซิล ประชากร 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳解答
เป็นเจ้าของกิจการ ไม่ว่าธุรกิจอะไร ต้องไม่โฟกัสอยู่เพียงแค่ปัจจุบันเท่านั้น หากอยากประสบความสำเร็จต้องมองการณ์ไกล วางแผนอนาคตล่วงหน้า มองหาช่องทางและโอกาสที่สามารถต่อยอดธุรกิจได้ ซึ่งสามารถดูได้จากกระแสแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของสังคม วันนี้ได้นำ เทรนด์ที่คาดว่าจะเกิดเป็นธุรกิจขึ้นในอีกทศวรรษหน้า หรือในปี 2030 มาเป็นแนวทางให้เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการได้นำเทรนด์นี้ไปปรับใช้ ต่อยอด หรือแม้กระทั่งเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
.
1. โลกกำลังจะถูกครอบครองโดย “ผู้สูงอายุ”
เพราะโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ องค์การสหประชาชาติ คาดการณ์ว่าในอีก 14 ปีข้างหน้า จะมีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) กว่า 1.4 พันล้านคน หรือคิดเป็น 16.5% ของประชากรโลกทั้งหมด สำหรับในไทย ผู้สูงอายุจะสูงถึง 30% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จะทำให้มีนวัตกรรม อาหารและยา ที่ช่วยประคองชีวิต ยืดอายุร่างกายของผู้คนให้ยืนยาวขึ้น ประกอบกับเทรนด์การหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพ คืออีกปัจจัยที่ทำให้จำนวนผู้สูงอายุมีมากขึ้น
ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม ตลาดแรงงานในอนาคตที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนในธุรกิจอะไรสักอย่าง ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ หรือธุรกิจที่มีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุ เช่น วิตามิน อาหารเสริม แอปพลิเคชันหรือระบบเซ็นเซอร์ที่ช่วยแจ้งเตือนเรื่องสุขภาพของผู้สูงอายุ เป็นต้น จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจและควรศึกษาเพื่อลงทุนอย่างยิ่ง
.
2. โลกกำลังเผชิญปัญหาครั้งใหญ่ “ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดและผลิตทดแทนไม่ได้”
องค์การสหประชาชาติ คาดการณ์ว่า ในปี 2030 จำนวนประชากรโลกจะพุ่งสูงถึง 8.4 พันล้านคน สังคมเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีคนอาศัยอยู่ในเมืองมากกว่า 5 พันล้านคน โดยเฉพาะในแถบแอฟริกาและเอเชีย พื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้จะถูกแทนที่ด้วยบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง สาธารณูปโภคต่าง ๆ ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการผลิต และโรงผลิตไฟฟ้าที่มีความต้องการน้ำมากกว่าเดิมเกือบ 40% อาจทำให้โลกเสี่ยงต่อภาวะขาดแคลนน้ำ ประชากรกว่าครึ่งโลกต้องเผชิญกับทรัพยากรน้ำไม่เพียงพอต่อการบริโภค
สำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ควรวางแผนการจัดการทรัพยากรและพลังงานอย่างชาญฉลาด ใช้พลังงานทางเลือกแทนพลังงานจากฟอสซิล หรืออาจเปลี่ยนสินค้าให้เป็นบริการ ซึ่งจากปัญหาการขาดแคลน ในปี 2030 เทรนด์ของสินค้าและบริการที่คำนึงถึงวงจรการผลิตและลดของเสียให้เป็นศูนย์จะเป็นที่นิยมมากขึ้น รวมถึงบรรจุภัณฑ์ในอนาคตจะถูกพัฒนาให้ย่อยสลายได้เองทันทีหลังใช้งานเสร็จ หรือแม้กระทั่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกินได้ด้วย
.
3. การเปลี่ยนแปลงของขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลก
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันจีน เป็นประเทศที่มีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด แซงหน้าหลายประเทศในฝั่งตะวันตกและยุโรป สามารถขึ้นสู่อันดับ 2 ของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกได้ แต่สำหรับในปี 2030 มีการคาดการณ์ว่า กลุ่มเศรษฐกิจบริกส์ (BRICS) หรือกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้นกว่า 2 เท่า มีมูลค่าทางจีดีพีอยู่ที่ 38% ของจีดีพีโลก ประชากรชนชั้นกลางของอินเดียจะมีจำนวนแซงหน้าจีน ซึ่งชนชั้นกลางเหล่านี้จะก้าวขึ้นมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นไปได้ว่าอินเดียจะเป็นมหาอำนาจของเศรษฐกิจโลกประเทศต่อไป
นี่จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย ที่มีความพร้อมและเล็งเห็นช่องทางความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนหรือเจรจาค้าขายในอินเดีย เนื่องจากตลาดอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และประชากรชาวอินเดียเองก็นิยมสินค้าไทยด้วย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก จาน ชาม ช้อน ส้อม ขัน เป็นต้น
.
4. ทั่วโลกร่วมมือยึดหลักความยั่งยืนและความรับผิดชอบทางสังคม
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคม ประชากร ปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติ การขาดแคลนทรัพยากร ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญเรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนโดยครอบคลุมทั้งระดับสังคม เศรษฐกิจ และประเทศ ในขณะเดียวกันผู้บริโภคกล้าที่จะเรียกหาความเป็นธรรมมากขึ้น ทั้งยังพร้อมสนับสนุน ให้ความร่วมมือกับธุรกิจที่โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ผ่านกลุ่มสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการเองก็ควรให้ความสำคัญในเรื่องของการอยู่ร่วมกันในสังคมของผู้บริโภคและธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส สัตย์จริง ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หรือแรงงานของตน ทั้งนี้ควรให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลบริษัทได้ พร้อมกับวางแผนพัฒนาธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การขาดแคลนทรัพยากร ความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิมนุษยชน
.
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 ข้อข้างต้น ล้วนเป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการสามารถนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนา หรือต่อยอดในธุรกิจของตนเองที่มีอยู่แล้ว รวมถึงการทำธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต แม้ว่าจะเป็นเทรนด์ธุรกิจล่วงหน้าถึง 10 ปี แต่ก็ถือว่าเป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการไทยควรศึกษา และเตรียมความพร้อมให้ดี ไม่ควรหยุดนิ่ง หรือมองเพียงแค่ธุรกิจในมือเท่านั้น เพราะเทรนด์การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างทางก่อนจะถึงปีที่ 10 ซึ่งถ้าผู้ประกอบการท่านใด รู้ก่อน มีความพร้อมก่อน และที่สำคัญลงทุนก่อน โอกาสที่จะคว้าอันดับหนึ่งบนสังเวียนการแข่งขันทางธุรกิจก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
.
ที่มา : https://themomentum.co/successful-feature-5-megatrends-2030/
https://www.passiongen.com/inspired/2017/06/business-trends-that-will-drive-success-in-2030/
.
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS #อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan #เทรนด์ธุรกิจปี2030 #เทรนด์ธุรกิจ #Trend #Businessowner #Megatrends2030 #Economy #Business #investment
บราซิล ประชากร 在 10 เรื่องจริงของประเทศ บราซิล (Brazil) ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ~ LUPAS 的推薦與評價
คุณคงรู้จัก บราซิล (Brazil) ประเทศที่มีชื่อเสียงมากมายในหลายๆด้าน และในวันนี้ครับ เราจะพาคุณมาพบกับ 10 เรื่องจริงของประเทศ บราซิล (Brazil) ... ... <看更多>
บราซิล ประชากร 在 Coffee World Thailand - 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Brazil 1. บราซิล ... 的推薦與評價
5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Brazil 1. บราซิลมีประชากร ราว 201 ล้านคน มากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก 2. เมืองหลวงของบราซิลคือ “บราซิเลีย”... ... <看更多>